สารบัญ
บุญทาน น่าอัศจรรย์จริง
– อนุโมทนาวัตร
– อนุโมทนา คือการกล่าววาจาชื่นชม
– อนุโมทนา มีมาแต่พุทธกาล
– ผู้ให้โภชนาหาร ชื่อว่าให้ทาน ๕ อย่าง
– คำอนุโมทนา แม้เทวดาก็สนใจ
– เทวดาเหม็นสาบกลิ่นมนุษย์
– เมตตานุเคราะห์กันเป็นบุญที่สุด
– ให้อาหาร=ให้อายุ ให้เสื้อผ้า=ให้วรรณะ
– ให้ยานพาหนะ=ให้ความสุขสบาย
– พระสะดวกสบาย เพราะมีผู้ให้ยาน
– ให้ที่พักอาศัย=ให้ทุกอย่าง
– ให้ธรรมะ=ให้ความเป็นอมตะแก่ชีวิต
– บุญ ยิ่งแบ่งให้ยิ่งได้รับ
– รอดตายเพราะให้ธรรม
– อมตะแท้ คือ ไม่ตายจากความดี
– เหตุแห่งความตาย ๓ ประการ
– ถ้าไม่รู้จักบุญ จะทำบุญได้อย่างไร
– บุญนั้นสำคัญเท่าชีวิต
– สงบ ผ่องใส คือบรรยากาศแห่งบุญ
– บุญดีต้องมีครบ ทาน ศีล ภาวนา
– บุญ คือหลักพัฒนาคุณภาพชีวิต
– บุญน้อย=คุณภาพชีวิตต่ำ
– บุญปานกลาง=คุณภาพชีวิตปานกลาง
– บุญมาก=คุณภาพชีวิตดี
– บุญยิ่งมาก=คุณภาพชีวิตยิ่งดี
– ไม่รู้จักภาวนาพาอาภัพ
– ภาวนา คือพัฒนา
– เปิดโลกทัศน์ด้วยธัมมัสสวนมัย
– บุญสามขยายเป็นบุญสิบ
– บุญเกิดได้ เพราะใจอ่อนน้อม
– ปิดทองหลังพระ ใจดั่งพระโพธิสัตว์
– พระหรือฆราวาสไม่ควรประมาทในทาน
– จาคะของแต่ละคน มีผลต่อชีวิต
– ผู้ให้มาก ย่อมได้มากกว่าผู้ให้น้อย
– ไม่ว่าให้ทานหรือไม่ ถ้าได้วิมุตติก็หลุดพ้นเหมือนกัน
– ลาภมีเพราะให้ทาน ลาภอันตรธาน เพราะทานไม่มี
– พระอรหันต์ยากจน
– คนกาลกิณีชีวิตมีแต่ซวย
– ชีวิตรันทดถึงกับต้องแย่งสุนัขกิน
– อำนาจกรรมทำให้อดอยาก
– วิบากกรรมไม่เคยละเว้นใคร
– แม้จิตพ้นกิเลส แต่กายไม่พ้นกรรม
– ข้าวปลาสูญหายเพราะผลของกรรม
– อาจริยวัตรและนิพพาน
– สิ้นกรรม แต่ยังต้องรับผลกรรม
– เป็นพระอรหันต์อดอยาก เพราะวิบากในอดีต
– ความอิจฉาพาวิบัติ
– ความตระหนี่บังตาพามืดบอด
– ความโลภบังตาพาให้หลง
– เมื่อถูกกิเลสครอบงำ ก็มักทำเรื่องน่าอาย
– บุญทานนั้น น่าอัศจรรย์แท้