สารบัญ
ชีวิตนี้น้อยนัก แต่สำคัญนัก
– ชีวิตนี้สั้นนัก เมื่อเทียบกับอดีตและอนาคต
– ทุกชีวิตได้สร้างกรรมไว้มากมายทั้งอดีตและปัจจุบัน
– กรรมให้ผลตรงตามเหตุเสมอ
– ทำดีต้องได้ดีแน่ ไม่มีข้อยกเว้น
– กรรมชาตินี้น้อยนัก กรรมชาติก่อนมากมายนัก
– ผลในปัจจุบัน คือเครื่องบ่งกรรมในอดีต
– กำเนิดของสัตว์ คือเครื่องชี้วัดอำนาจกรรม
– กรรมทำให้เทวดาเกิดเป็นมนุษย์
– กรรมทำให้มนุษย์เกิดเป็นเทวดา
– กรรมทำให้มนุษย์เกิดเป็นสัตว์ สัตว์เกิดเป็นเทวดา
– อำนาจความยึดติดทำให้มนุษย์เกิดเป็นสัตว์
– อำนาจกรรมเป็นที่น่ากลัว น่าหนีให้พ้น
– จะเกิดเป็นอะไรขึ้นอยู่กับสภาพจิตสุดท้ายขณะสิ้นลม
– จิตหวงสมบัติขณะตายทำให้เกิดเป็นงู
– เกิดเป็นอะไรไม่ประเสริฐเท่าเกิดเป็นมนุษย์
– ปรารถนาสุขในชาติหน้าต้องฝึกใจไม่ให้ทุกข์ในชาตินี้
– จิตคุ้นเคยกับสิ่งดีมีมงคล ย่อมนำให้ได้ผลดีในภพหน้า
– ภพชาติปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นกรรมในอดีตชาติ
– ปรารถนาเสวยผลดีทุกชาติ จงประกอบกรรมดีให้ต่อเนื่อง
– ทุกชีวิตมีกรรมร้ายไล่บดขยี้ ต้องสร้างกรรมดีพาหนีกรรม
– ผู้มีกรรม หนีเท่านั้นจึงจะหนีพ้นเงื้อมมือกรรม
– เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับชีวิต ล้วนเป็นลิขิตแห่งกรรม
– กุศลกรรมตัดรอนอกุศลกรรมได้
– มองให้เห็นความน่ากลัวของกรรม แล้วพยายามหนีให้พ้น
– ผู้ประมาทไม่เชื่อกรรม จะถูกกรรมย่ำยีอย่างไม่ปรานี
– มองชีวิตให้เกิดความสังเวช จะเป็นเหตุให้กลัวกรรม
– หากปฏิเสธเรื่องกรรม ก็ไม่อาจหนีกรรมได้พ้น
– ทุกข์ในปัจจุบัน เป็นผลกรรมที่เคยทำในอดีต
– ภพชาติมีจริง อ้างอิงจากคนที่ระลึกชาติได้
– เคยเกิดเป็นอะไร ก็จะมีอุปนิสัยติดมาถึงปัจจุบัน
– หากมีญาณหยั่งรู้อดีต จะสังเวชกับชีวิตที่ผ่านมา
– แม้บรรลุธรรมสูงสุด ก็มิอาจหลุดจากอำนาจกรรม
– เกิดมาต่ำต้อยแต่ได้ดีมีสุข เพราะกรรมดีหนุนส่ง
– ผู้มีบุญทำไว้ในอดีต ชีวิตย่อมดีมีสุขทุกเมื่อ
– ผู้ไม่เคยทำดีเอาไว้ เมื่อทุกข์เข็ญใจ ก็ไร้สิ่งช่วยเหลือ
– เพราะกรรมให้ผลโดยไม่ตั้งตัว จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งนัก
– เกิดมาชาตินี้ มีทั้งกรรมดี-ชั่วคอยตามให้ผล
– ชีวิตคนเรามีกรรมดี กรรมชั่วคอยจ้องให้ผล
– ผู้ที่ประกอบกรรมไม่ดี = เปิดโอกาสให้กรรมไม่ดีให้ผล
– มีพุทโธอยู่ในใจ จะปลอดภัยพ้นจากอำนาจกรรม
– พุทโธ คือพลังตัดสื่อกรรม ไม่ให้กรรมให้ผล
– ทุกชีวิตเกี่ยวพันกับเจ้ากรรมนายเวรและบุพการีชน
– การขออภัยและตอบแทนคุณ ควรทำด้วยความจริงใจ
– กรรมทุกอย่างให้ผลแน่ ไม่ลบเลือนไปตามกาลเวลา
– กลัวอำนาจกรรมก็จงตัดเหตุแห่งกรรมให้หมดในชาตินี้
– ตัดกรรมได้ในชาตินี้ ชาติอนาคตก็ไม่มี ทุกข์ก็ไม่มี
– ชีวิตนี้สำคัญนัก จักต้องหนีกรรมให้พ้น
– ชาติหน้าไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะเป็นเช่นไร
– ชีวิตนี้ คนดีใช้หนีกรรม คนชั่วใช้กอบโกย
– เร่งคิดดี พูดดี ทำดี หนีกรรมให้พ้นในชาตินี้เถิด
– อำนาจแห่งกรรมย่ำยีคนโดยไม่ปรานี
– แม้ไม่เชื่อในกฎแห่งกรรม ก็ไม่ควรเสี่ยงทำความชั่ว
– อำนาจกรรมมีพลังยิ่งใหญ่ ทำให้ธรณีสูบคนทั้งเป็น
– กรรมหนัก กระเทือนจิตสำนึกมากกว่ากรรมเบา
– กรรมเล็กๆ หากทำบ่อยก็จะกลายเป็นกรรมใหญ่
– อำนาจกรรมบันดาลผลอันไม่น่าเชื่อได้
– ทำลายพระพุทธศาสนา บาปหนักเท่ากับทำร้ายพระพุทธเจ้า
– ผู้ทำลายพุทธศาสนา ล้วนแต่เป็นบาปทั้งสิ้น
– อย่าประมาทในอำนาจกรรม สิ่งไม่คาดคิดเกิดได้เสมอ
– ปฏิบัติต่อพระศาสนาให้รอบคอบ อย่าให้เสียประโยชน์
– ชีวิตนี้สั้นนัก แต่สร้างประโยชน์ได้มากนัก
– จะปกป้องพุทธศาสนาได้ ต้องรู้จักภัยที่ทำลายพุทธศาสนา
– ยึดหลักกตัญญูกตเวที จะไม่มีความเสียหายแก่ศาสนา
– มีความกตัญญูกตเวทีแล้ว ชีวิตภพหน้าจะสวยงาม
– คนที่มีความกตัญญูกตเวที ไม่มีทางทำไม่ดี
– คิดดี พูดดี ทำดี จะหนีกรรมได้
– น้อมพุทธบารมีมาใส่ตนจะบังเกิดผลคือความสวัสดี
– ร่างกายดับสูญ แต่พุทธคุณบารมียังคงอยู่
– มั่นใจในพุทธบารมีก็เร่งทำดีเพื่อหนีอำนาจกรรมเถิด
– สิ่งสำคัญยิ่งที่ต้องทำในชีวิตนี้ คือหนีกรรมเก่าให้พ้น
– ภพชาติหน้าสุขหรือทุกข์ ขึ้นอยู่กับกรรมที่สั่งสมไว้
– ชาตินี้จิตสั่งสมแต่กิเลส จะเป็นเหตุสู่ทุคติในชาติหน้า
– ชาตินี้จิตสั่งสมแต่ความดี จะสุขทวีทั้งชาตินี้ชาติหน้า
– ความเชื่อเรื่องกรรมมีคุณยิ่งใหญ่ความสบายย่อมมีมา
– เชื่ออย่างเดียวไม่พอ ที่สำคัญต้องมีสัมมาทิฐิในใจ
– สติ ปัญญา เมตตากรุณานำพาให้เกิดสัมมาทิฐิในใจ
– ความกตัญญู คือ มโนกรรมที่สำคัญยิ่ง
– มโนกรรมที่ดี ก่อเกิดความสวัสดีทุกประการ
– พระพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าได้เพราะมีมโนกรรมที่สูงส่ง
– กุศลกรรมตัดผลแห่งอกุศลกรรมได้แน่ อย่าสงสัย
– ปากพูดว่ากลัวกรรม แต่ใจไม่กลัวจริงไม่เกิดประโยชน์
– หนีจากอุ้งมือกรรมได้เมื่อไร ชีวิตจะมีแต่ความสวัสดี
– จะหนีกรรมไม่ดีได้ ต้องมีพระอยู่ในใจเสมอ
– ความมั่นคงในพุทธคุณหนุนชีวิตให้พ้นอำนาจกรรม
– คนมีความกตัญญูกตเวทีมีโอกาสหนีกรรมได้ยิ่งกว่าใคร
– ยึดมั่นในความกตัญญูกตเวทีหนีกรรมให้ได้ในชาตินี้เถิด